เรื่องยูมิน เป็นยังไงมายังไง? “ยูมินก็รู้จักครับ เป็นน้องคนนึงที่น่ารักมากๆ เมื่อก่อนเค้าเป็นเอ็กซ์ตร้าอยู่ตอนที่ผมถ่ายเสน่ห์แรงงิ้ว ผมไม่ได้เรียกว่ายูมินครับ ผมเรียกว่าน้องปาย เพราะว่าเค้าชื่อน้องปายนะครับก็รู้จักกันมาตลอด เค้าก็น่ารักดี แล้วก็อัธยาศัยดี เป็นเด็กดี รักคุณพ่อคุณแม่อย่างเนี้ยะก็รู้จักกันมาตลอดจนถึงทุกวันนี้”
ในความสัมพันธ์น้องเค้าให้สัมภาษณ์เหมือนคบกันฟิล์มอยู่? “จริงๆ แล้วเนี่ยตั้งแต่ผมรู้จักกันมานะครับ แต่ไม่ได้แบบว่าติดต่อกันบ่อยนักนะครับ เพราะว่าผมก็งานเยอะ มันจะมาติดต่อกันบ่อยหน่อยตอนช่วงที่ผมซื้อบ้านนะครับ คือผมก็ถามน้องเค้าพอดีว่าเฮ้ยมีหมู่บ้านไหนที่น่าสนใจไหม พี่อยากได้บ้านที่มีเนื้อที่ให้กับพ่อแม่อย่างนี้ครับ เพราะว่าเราก็เก็บตังค์มาได้สักส่วนหนึ่งแล้ว”
“เค้าก็บอกว่าหมู่บ้านนี้เลย มีดาราอยู่กันเพียบ เค้าก็พาผมไปดู ผมไปดูเสร็จผมก็ชอบ ผมชอบเสร็จผมก็ตัดสินใจซื้อจากการแนะนำของน้องเค้านะครับ พอซื้อเสร็จระหว่างการสร้างเนี่ยเราก็เริ่มคุยกับน้องเค้ามากขึ้น เพราะว่าน้องเค้าคอยดูแลบ้านให้เราตลอดไงครับ”
“แต่ว่า ถ้าในเชิงว่าผมกะเค้าเป็นอะไรกันอย่างงี้ครับคือ ณ ตอนนี้นะครับเราก็เป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเดิมครับ คือไอเราคุยกันไหมมันคุยฮะ มันก็ได้แค่คุยแต่ว่าคือจากชีวิตผมที่ผ่านอะไรมาเยอะนะฮะ ได้ทั้งบวชเรียน ได้ทั้งไปเรียนเมืองนอกต่างๆ นาๆ พอผมกลับมาพูดจริงๆ คือผมยังไม่พร้อมที่จะมีใคร เพราะว่าแค่ลำพังตัวผมเองเนี่ย ผมพูดตรงๆ แค่สองขาของผมตอนเนี้ยะผมยังยืนไม่รอดเลยครับ ผมยังเอาตัวเองไม่รอดเลยครับ ข่าวหลากหลายที่ผมสร้างไว้มันทำให้ผมแบบว่าผมล้มแล้วยังยืนไม่ไหวเลยครับ”
“ผมไม่พร้อมที่จะมีใครนะครับ แต่ว่าไอสิ่งที่จะทำให้น้องเค้าเข้าใจผิดหรืออะไรอย่างเนี้ยะมันก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะว่าผมก็เป็นคนที่อัธยาศัยดีนะครับ คือน้องเค้าก็อัธยาศัยดี เค้าก็ไม่ได้เป็นเด็กที่ไม่ดีอะไร แต่ว่า ณ ตอนนี้เป็นพี่เป็นน้องน่าจะดีที่สุดครับ”
จะบอกว่าน้องเค้าคิดไปเอง? “อ่อ ผมไม่ได้พูดขนาดนั้น คือผมก็จะพูดว่าตัวผมเองซะมากกว่าครับ อาจจะแบบว่าในเชิงคุยกัน เชิงอะไรแบบนี้ครับ อาจจะทำให้เค้าแบบว่า มันคิดได้หลายอย่างครับ เพราะว่าในสำหรับผมเนี่ยตอนแรกผมก็มองๆ เหมือนกันครับถ้าความจริง แต่ว่าพอมันผ่านมาสักระยะนึง เราเริ่มรู้ว่าชีวิตเราคงไม่ได้ถึงขนาดว่าจะมาคบกัน ผมก็มองว่าเค้าเป็นน้องคนนึง เค้าก็น่ารัก ผมก็มองเค้าเป็นน้องมาตลอด แล้วก็มาเลิกคุยกันตอนที่ผมบวชนะครับ ก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย”
เห็นเค้าบอกว่าตอนอยู่อังกฤษก็โทรคุยกัน? “มีบ้างครับ มีบ้าง ก็มีทั้งผมโทรไป คุณแม่เค้าโทรมา ผมก็ฝากบอกเรื่องบ้านแหล่ะ ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับตอนนี้ เพราะว่ามันไม่มีใครดูแลแล้วเค้าอยู่ใกล้ไงครับ”
ตอนเกิดเรื่องน้องเค้ารับรู้มาตลอด แต่ไม่ได้ออกมาพูด? “จริงๆ แล้วรับรู้ไหมก็รับรู้นะครับ แต่ว่าไอออกมาไหม ออกมาทำไมหรอครับ(หัวเราะ) ก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็เป็นพี่เป็นน้องกันครับผม”
มีคำว่ารักฟิล์ม ที่ทำให้เค้ายังอยู่ได้ถึงวันนี้? “โอ้โห ถ้าเกิดว่าทำให้มัน การสื่อสารมันทำให้ผิดพลาดไปขนาดนั้น ก็มันคงผิดที่ตัวผมเองครับ”
เค้าพูดเหมือนฟิล์มคบซ้อนแอนนี่ด้วย? “ผมไม่เคยคบใครซ้อนครับ แล้วก็ทุกๆ คนก็คือเพื่อนผมครับ ถ้าเกิดว่าผมจะคบใครหรือว่า ผมไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังนะครับ”
ณ ตอนนี้ยังคุยกันไหม? “ยังไม่มีเวลาเลยครับ ทำงานอย่างเดียว แล้วอย่างที่ผมบอกครับผมไม่คิดเรื่องนี้อีกเลยฮะ ตั้งแต่ผมบวชนะครับไม่เคยคิดอีกเลยเพราะว่าผมมองว่ามันเป็นสิ่งที่ไกลจากผมมาก คือยังไม่ถึงเวลานี้ หนึ่งเลยคนรอบข้างผมเสียน้ำตาให้ผมเยอะ พ่อแม่เอย บริษัทอาร์เอสเอย แฟนๆ ของผมเสียน้ำตาให้ผมเยอะมาก ผมมองแล้วว่าถ้าเกิดผมยังไม่ปรับปรุงตัวเอง ผมพลาดมาเยอะ ถ้าผมยังใช้ชีวิตที่แบบว่าเรื่อยๆ อยู่ ใช้ชีวิตที่แบบประมาทอยู่ผมว่าผมคงไม่ประสบความสำเร็จตามที่ใจต้องการ”
คิดว่าเค้าเกาะกระแสฟิล์มหรือเปล่า? “ผมไม่ออกความเห็น”
มีหนังสือลงว่าฟิล์มรู้ผลดีเอ็นเอแล้ว? “ผมว่าเรื่องนี้เดี๋ยวต้องไปเจอในชั้นศาล ในเรื่องต่างๆ ผมไม่อยากจะพูดอะไรมากเดี๋ยวจะทำให้รูปคดีเปลี่ยนนะครับ เดี๋ยวต้องติดตามต่อไปครับ”
ได้ยินมาว่าตอนอยู่อังกฤษโดนจับด้วย? “คือเป็นข่าวมาเยอะว่าผมไปเล่นยาบ้าง ถูกจับบ้าง รุมถ่ายหนังโป๊บ้างนะฮะ สารพัดข่าว ก็อยากจะบอกว่าคือถูกจับไหม อะไรๆ ไหมมีจริงๆ นะครับแต่ว่าไม่ได้ทำอย่างที่เค้าพูดเลย ไม่ได้เล่นยา ไม่ได้รุมถ่ายหนังโป๊ ไม่ได้อะไร เพราะถ้าเกิดผมทำถึงขนาดนั้นน่ะ ผมคงไม่ได้มานั่งเล่าอะไรแบบนี้หรอกครับ”
“คือจริงๆ แล้วโดนจับไหม คือมันโดนจับจริงๆ เพราะว่าผมเนี่ยไปถ่ายรายการฟิล์มวันแมนโชว์ คือทุกๆ คนจะดูชีวิตผมได้ในช่อง 8 อินฟินิตี้ นะครับดูได้เลยจะมีชีวิตผมตลอดเวลา”
“ก็วันนั้นเป็นงานรับน้องที่ลอนดอน ก็ไปกันในผับแห่งหนึ่งพอเข้าไปเสร็จเนี่ยจริงๆ เค้าห้ามถ่ายเพราะว่ามันเป็นไพรเวทปาร์ตี้ ทุกๆ คนเนี่ยเค้าก็แบบว่าเป็นชาติตระกูล ระมัดระวังตัวกันหมดเพราะทุกคนเสียเงินไปเรียนกันหมดนะครับ ก็เข้าไปถ่าย ผอผมถ่ายเสร็จเนี่ยเค้าห้ามผมก็แอบๆ ถ่ายเองครับมีทีมงานอีกสามคน แล้วก็เพื่อนผมอีกสองคน”
“พอเช้าวันนึงตำรวจก็มาจับ เข้ามาในบ้านผม พอเข้ามาเสร็จเค้าก็มาจับผม ผมอาบน้ำอยู่ เค้าก็จับผมไป ผมก็ถามจับผมเรื่องอะไร เค้าบอกยูเป็นทีมงานถ่ายหนังโป๊หนึ่งกระทง ยูลักลอบถ่ายหนังโป๊ในผับสองกระทง ยูพาพวกเพื่อนๆ ยูไปแบบว่าทำมิดีมิร้ายสามกระทง ผมก็บอกว่าโน ชั้นเป็นดารานะ”
“ผมก็บอกว่าช่วยติดต่อสถานทูตให้ผมได้ไหม เค้าจะได้มาช่วยผมยืนยันว่าผมเป็นดารานะ ผมคือแบบว่าสาร์ที่นั่นนะอะไรอย่างเนี้ยะ เค้าก็ติดต่อมาหาผม เค้าก็ช่วยพูดว่านี่เค้าเป็นคนของสังคมอะไรอย่างเนี้ยะ ซุปเปอร์สตารืไทยแลนด์อย่างเนี้ยะ ผมก็แบบไหว้เค้าสารพัดให้เค้าเข้าใจ ปล่อยผมอีกทีคือวันรุ่งขึ้น ติดอยู่วันนึงครับ อยู่ในคุกเลยครับหนึ่งวัน”
ขอบคุณที่มา : mthai.com
เรื่องยูมิน เป็นยังไงมายังไง? “ยูมินก็รู้จักครับ เป็นน้องคนนึงที่น่ารักมากๆ เมื่อก่อนเค้าเป็นเอ็กซ์ตร้าอยู่ตอนที่ผมถ่ายเสน่ห์แรงงิ้ว ผมไม่ได้เรียกว่ายูมินครับ ผมเรียกว่าน้องปาย เพราะว่าเค้าชื่อน้องปายนะครับก็รู้จักกันมาตลอด เค้าก็น่ารักดี แล้วก็อัธยาศัยดี เป็นเด็กดี รักคุณพ่อคุณแม่อย่างเนี้ยะก็รู้จักกันมาตลอดจนถึงทุกวันนี้”
ในความสัมพันธ์น้องเค้าให้สัมภาษณ์เหมือนคบกันฟิล์มอยู่? “จริงๆ แล้วเนี่ยตั้งแต่ผมรู้จักกันมานะครับ แต่ไม่ได้แบบว่าติดต่อกันบ่อยนักนะครับ เพราะว่าผมก็งานเยอะ มันจะมาติดต่อกันบ่อยหน่อยตอนช่วงที่ผมซื้อบ้านนะครับ คือผมก็ถามน้องเค้าพอดีว่าเฮ้ยมีหมู่บ้านไหนที่น่าสนใจไหม พี่อยากได้บ้านที่มีเนื้อที่ให้กับพ่อแม่อย่างนี้ครับ เพราะว่าเราก็เก็บตังค์มาได้สักส่วนหนึ่งแล้ว”
“เค้าก็บอกว่าหมู่บ้านนี้เลย มีดาราอยู่กันเพียบ เค้าก็พาผมไปดู ผมไปดูเสร็จผมก็ชอบ ผมชอบเสร็จผมก็ตัดสินใจซื้อจากการแนะนำของน้องเค้านะครับ พอซื้อเสร็จระหว่างการสร้างเนี่ยเราก็เริ่มคุยกับน้องเค้ามากขึ้น เพราะว่าน้องเค้าคอยดูแลบ้านให้เราตลอดไงครับ”
“แต่ว่า ถ้าในเชิงว่าผมกะเค้าเป็นอะไรกันอย่างงี้ครับคือ ณ ตอนนี้นะครับเราก็เป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเดิมครับ คือไอเราคุยกันไหมมันคุยฮะ มันก็ได้แค่คุยแต่ว่าคือจากชีวิตผมที่ผ่านอะไรมาเยอะนะฮะ ได้ทั้งบวชเรียน ได้ทั้งไปเรียนเมืองนอกต่างๆ นาๆ พอผมกลับมาพูดจริงๆ คือผมยังไม่พร้อมที่จะมีใคร เพราะว่าแค่ลำพังตัวผมเองเนี่ย ผมพูดตรงๆ แค่สองขาของผมตอนเนี้ยะผมยังยืนไม่รอดเลยครับ ผมยังเอาตัวเองไม่รอดเลยครับ ข่าวหลากหลายที่ผมสร้างไว้มันทำให้ผมแบบว่าผมล้มแล้วยังยืนไม่ไหวเลยครับ”
“ผมไม่พร้อมที่จะมีใครนะครับ แต่ว่าไอสิ่งที่จะทำให้น้องเค้าเข้าใจผิดหรืออะไรอย่างเนี้ยะมันก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะว่าผมก็เป็นคนที่อัธยาศัยดีนะครับ คือน้องเค้าก็อัธยาศัยดี เค้าก็ไม่ได้เป็นเด็กที่ไม่ดีอะไร แต่ว่า ณ ตอนนี้เป็นพี่เป็นน้องน่าจะดีที่สุดครับ”
จะบอกว่าน้องเค้าคิดไปเอง? “อ่อ ผมไม่ได้พูดขนาดนั้น คือผมก็จะพูดว่าตัวผมเองซะมากกว่าครับ อาจจะแบบว่าในเชิงคุยกัน เชิงอะไรแบบนี้ครับ อาจจะทำให้เค้าแบบว่า มันคิดได้หลายอย่างครับ เพราะว่าในสำหรับผมเนี่ยตอนแรกผมก็มองๆ เหมือนกันครับถ้าความจริง แต่ว่าพอมันผ่านมาสักระยะนึง เราเริ่มรู้ว่าชีวิตเราคงไม่ได้ถึงขนาดว่าจะมาคบกัน ผมก็มองว่าเค้าเป็นน้องคนนึง เค้าก็น่ารัก ผมก็มองเค้าเป็นน้องมาตลอด แล้วก็มาเลิกคุยกันตอนที่ผมบวชนะครับ ก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย”
เห็นเค้าบอกว่าตอนอยู่อังกฤษก็โทรคุยกัน? “มีบ้างครับ มีบ้าง ก็มีทั้งผมโทรไป คุณแม่เค้าโทรมา ผมก็ฝากบอกเรื่องบ้านแหล่ะ ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับตอนนี้ เพราะว่ามันไม่มีใครดูแลแล้วเค้าอยู่ใกล้ไงครับ”
ตอนเกิดเรื่องน้องเค้ารับรู้มาตลอด แต่ไม่ได้ออกมาพูด? “จริงๆ แล้วรับรู้ไหมก็รับรู้นะครับ แต่ว่าไอออกมาไหม ออกมาทำไมหรอครับ(หัวเราะ) ก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็เป็นพี่เป็นน้องกันครับผม”
มีคำว่ารักฟิล์ม ที่ทำให้เค้ายังอยู่ได้ถึงวันนี้? “โอ้โห ถ้าเกิดว่าทำให้มัน การสื่อสารมันทำให้ผิดพลาดไปขนาดนั้น ก็มันคงผิดที่ตัวผมเองครับ”
เค้าพูดเหมือนฟิล์มคบซ้อนแอนนี่ด้วย? “ผมไม่เคยคบใครซ้อนครับ แล้วก็ทุกๆ คนก็คือเพื่อนผมครับ ถ้าเกิดว่าผมจะคบใครหรือว่า ผมไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังนะครับ”
ณ ตอนนี้ยังคุยกันไหม? “ยังไม่มีเวลาเลยครับ ทำงานอย่างเดียว แล้วอย่างที่ผมบอกครับผมไม่คิดเรื่องนี้อีกเลยฮะ ตั้งแต่ผมบวชนะครับไม่เคยคิดอีกเลยเพราะว่าผมมองว่ามันเป็นสิ่งที่ไกลจากผมมาก คือยังไม่ถึงเวลานี้ หนึ่งเลยคนรอบข้างผมเสียน้ำตาให้ผมเยอะ พ่อแม่เอย บริษัทอาร์เอสเอย แฟนๆ ของผมเสียน้ำตาให้ผมเยอะมาก ผมมองแล้วว่าถ้าเกิดผมยังไม่ปรับปรุงตัวเอง ผมพลาดมาเยอะ ถ้าผมยังใช้ชีวิตที่แบบว่าเรื่อยๆ อยู่ ใช้ชีวิตที่แบบประมาทอยู่ผมว่าผมคงไม่ประสบความสำเร็จตามที่ใจต้องการ”
คิดว่าเค้าเกาะกระแสฟิล์มหรือเปล่า? “ผมไม่ออกความเห็น”
มีหนังสือลงว่าฟิล์มรู้ผลดีเอ็นเอแล้ว? “ผมว่าเรื่องนี้เดี๋ยวต้องไปเจอในชั้นศาล ในเรื่องต่างๆ ผมไม่อยากจะพูดอะไรมากเดี๋ยวจะทำให้รูปคดีเปลี่ยนนะครับ เดี๋ยวต้องติดตามต่อไปครับ”
ได้ยินมาว่าตอนอยู่อังกฤษโดนจับด้วย? “คือเป็นข่าวมาเยอะว่าผมไปเล่นยาบ้าง ถูกจับบ้าง รุมถ่ายหนังโป๊บ้างนะฮะ สารพัดข่าว ก็อยากจะบอกว่าคือถูกจับไหม อะไรๆ ไหมมีจริงๆ นะครับแต่ว่าไม่ได้ทำอย่างที่เค้าพูดเลย ไม่ได้เล่นยา ไม่ได้รุมถ่ายหนังโป๊ ไม่ได้อะไร เพราะถ้าเกิดผมทำถึงขนาดนั้นน่ะ ผมคงไม่ได้มานั่งเล่าอะไรแบบนี้หรอกครับ”
“คือจริงๆ แล้วโดนจับไหม คือมันโดนจับจริงๆ เพราะว่าผมเนี่ยไปถ่ายรายการฟิล์มวันแมนโชว์ คือทุกๆ คนจะดูชีวิตผมได้ในช่อง 8 อินฟินิตี้ นะครับดูได้เลยจะมีชีวิตผมตลอดเวลา”
“ก็วันนั้นเป็นงานรับน้องที่ลอนดอน ก็ไปกันในผับแห่งหนึ่งพอเข้าไปเสร็จเนี่ยจริงๆ เค้าห้ามถ่ายเพราะว่ามันเป็นไพรเวทปาร์ตี้ ทุกๆ คนเนี่ยเค้าก็แบบว่าเป็นชาติตระกูล ระมัดระวังตัวกันหมดเพราะทุกคนเสียเงินไปเรียนกันหมดนะครับ ก็เข้าไปถ่าย ผอผมถ่ายเสร็จเนี่ยเค้าห้ามผมก็แอบๆ ถ่ายเองครับมีทีมงานอีกสามคน แล้วก็เพื่อนผมอีกสองคน”
“พอเช้าวันนึงตำรวจก็มาจับ เข้ามาในบ้านผม พอเข้ามาเสร็จเค้าก็มาจับผม ผมอาบน้ำอยู่ เค้าก็จับผมไป ผมก็ถามจับผมเรื่องอะไร เค้าบอกยูเป็นทีมงานถ่ายหนังโป๊หนึ่งกระทง ยูลักลอบถ่ายหนังโป๊ในผับสองกระทง ยูพาพวกเพื่อนๆ ยูไปแบบว่าทำมิดีมิร้ายสามกระทง ผมก็บอกว่าโน ชั้นเป็นดารานะ”
“ผมก็บอกว่าช่วยติดต่อสถานทูตให้ผมได้ไหม เค้าจะได้มาช่วยผมยืนยันว่าผมเป็นดารานะ ผมคือแบบว่าสาร์ที่นั่นนะอะไรอย่างเนี้ยะ เค้าก็ติดต่อมาหาผม เค้าก็ช่วยพูดว่านี่เค้าเป็นคนของสังคมอะไรอย่างเนี้ยะ ซุปเปอร์สตารืไทยแลนด์อย่างเนี้ยะ ผมก็แบบไหว้เค้าสารพัดให้เค้าเข้าใจ ปล่อยผมอีกทีคือวันรุ่งขึ้น ติดอยู่วันนึงครับ อยู่ในคุกเลยครับหนึ่งวัน”
ขอบคุณที่มา : mthai.com
No comments:
Post a Comment